จากประสบการณ์ในการให้บริการ เว็บไซต์สำเร็จรูป มากว่า 15 ปี พบว่า คนส่วนใหญ่ จะเข้าใจว่าการมีเว็บไซต์จะช่วยเพิ่มยอดขาย หรือ ช่วยให้ธุรกิจเป็นที่รู้จักกว้างขวางมากขึ้น ซึ่งความเข้าใจนี้ไม่ผิด แต่ความถูกต้องมีไม่ครบ เพราะ...
การมีเว็บไซต์ไม่ใช่สูตรสำเร็จที่จะทึกทักได้ว่า จะสำเร็จแบบนั้น สำเร็จแบบนี้ โดยที่ไม่ได้ให้ความสำคัญ หรือลงมือกระทำใดๆ กับเว็บไซต์เลย คิดว่ามีเว็บไซต์แล้ว ทุกอย่างจบ จากนั้นก็ฝันว่าเว็บไซต์จะนำพาสิ่งต่างๆ มาให้ ความจริงคือ...
การมีเว็บไซต์ เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น เพราะเว็บไซต์เป็นเครื่องมืออย่างหนึ่ง ที่จะช่วยให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น กว้างขวางขึ้น และประหยัดขึ้น เรียกสั้นๆ ว่า "โอกาส" ดังนั้นการมีเว็บไซต์คือการมี "โอกาส" ที่มากกว่าคนที่ไม่มี แต่มีแล้วใช่จะสำเร็จทันที สรุปสั้นๆ คือ
หากต้องการให้เว็บไซต์ของคุณประสบความสำเร็จ ควรจะเริ่มจาก
1. สำรวจตัวเองและคู่แข่ง
อย่างแรกเลยคุณจะต้องรู้ถึง จุดแข็ง จุดอ่อน ของสินค้า ที่คุณให้บริการอยู่ จากนั้น นำจุดแข็ง ของสินค้าทุกตัวมาเขียนเป็นข้อความสั้นๆ จากนั้นสำรวจดูเว็บไซต์ของคู่แข่ง หรือธุรกิจของคู่แข่งว่า เขามีจุดแข็ง และจุดอ่อนอย่างไร และท้ายสุดคุณจะต้องเปรียเทียบหาความแตกต่างระหว่าธุรกิจของคุณกับธุรกิจของคู่แข่ง ถ้าไม่มีความแตกต่าง นั่นคือโอกาสที่คุณจะสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง แต่คุณต้องคิดให้ได้ว่า จะแตกต่างอย่างไร ที่คู่แข่งจะตามคุณได้ยาก หรือตามได้แต่ต้องใช้เวลา
2. กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน
ขั้นตอนนี้ จะเป็นการกำหนดทิศทางของเว็บไซต์ว่า ถ้าเราต้องการให้เว็บไซต์ของเราเป็นที่รู้จักในแบบไหน โดยเราจะนำจุดแข็งที่ได้จากข้อแรกไปใช้งาน แต่เราไม่จำเป็นต้องนำจุดแข็งทั้งหมดที่มีอยู่ไปใช้ เราจะเลือกเฉพาะจุดแข็งที่สำคัญและได้เปรียบที่สุด กรณีที่ใช้จุดแข็งหลายข้อให้ใช้วิธีเรียงหัวข้อตามลำดับความสำคัญ
3. ให้ความสำคัญกับ Meta Tag
ถ้าคุณเข้าใจถึงความสำคัญของ "ทำเล" ในการทำธุรกิจทั่่วไป ก็คงจะเข้าใจถึงความสำคัญของ "Meta Tag & Keywords" ได้ไม่ยาก เพราะมันมีความสำคัญเช่นเดียวกัน ต่างกันตรงที่ "Meta Tag & Keywords" คือทำเลของการทำธุรกิจออนไลน์ ซึ่งจะใช้ข้อมูลที่ได้จากการทำ ข้อ 1 กับข้อ 2 มาสร้างเป็น Keywords เพื่อให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายค้นพบเว็บไซต์เราใน Search Engine หลักการคือ เอาชื่อสินค้า (หรือบริการ) มารวมกับคำที่เป็นจุดแข็ง ที่เรารวบรวมมาได้ แต่อย่าลืมเรียงลำดับตามที่กล่าวไว้ในข้อ 2
4. สร้างเนื้อหาให้สอดคล้องกับเป้าหมาย
เนื้อหาที่สร้างเพิ่มขึ้นใหม่ๆ ควรจะอยู่ในกรอบของเป้าหมายที่กำหนดไว้ในข้อ 2 เพื่อให้เว็บไซต์มีทิศทางที่สอดคล้องกับ "ทำเล" หลักๆ ที่เราวางเอาไว้ ในส่วนของ Meta Tag สิ่งที่จะต้องทำคือ การสร้างเนื้อหาใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอ โ่ดยเนื้อหาที่เพิ่มขึ้นจะต้องมี Keywords แทรกไว้ด้วย เพื่อเชื่อมโยงเนื้อหาภายในเว็บไซต์เข้าด้วยกัน .. เนื้อหาที่สร้างขึ้นอาจจะอยู่ในรูปของบทความ, Graphic หรือ คลิปวีดีโอ ก็ได้ แต่อย่าลืมตั้งชื่อ หรือใช้ข้อความที่เป็น Keywords ด้วยทุกครั้ง
5. กระจายเนื้อหาไปยังกลุ่มเป้าหมาย
เนื้อหาที่เราสร้างขึ้นมา จุดประสงค์คือต้องการให้มีคนคลิกเข้ามาชมให้มากที่สุด เพื่อผลทางอ้อมในการติดอันดับใน Search Engine ยิ่งมีคนคลิกเข้ามาในเว็บไซต์เรามากเท่าไร และอยู่ในเว็บไซต์เรานาน ยิ่งทำให้โอกาสในการติดอันดับมากขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นการเข้าถึงช่องทางการกระจายเนื้อหา จึงเป็นสิ่งที่ต้องศึกษาเรียนรู้ เพื่อทำให้เว็บไซต์ของเราเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายให้มากที่สุด แต่อย่าลืมว่าควรเลือกกลุ่มให้ตรงกับเนื้อหาของเรา เพราะถ้าไม่ตรงเราก็จะเหนื่อยโดยเปล่าประโยชน์
6. วัดผล & ปรับปรุง
สิ่งหนึ่งที่เว็บไซต์เราต้องมีคือ เครื่องมือเก็บสถิติ เพื่อใช้วัดผล เนื่องจากสิ่งที่เราทำทั้งหมดเพื่อให้เว็บไซต์มีอันดับดีขึ้น หรือมีผู้ชมมากขึ้น เราจะไม่สามารถวิเคราะห์ได้เลย ถ้าเราขาดเครื่องมือนี้ (แนะนำ Google Analytics) เครื่องมือนี้จะช่วยให้เราเห็นภาพก่อนและหลัง ช่วยให้เราวเคราะห์จุดอ่อน จุดแข็ง ของเว็บได้ โดยวัดจาก การค้นหา, การเข้าชม และ อัตราการอยู่ในเว็บแต่ละหน้า จากนั้นให้เรานำผลที่ได้ไปวิเคราะห์ และปรับปรุง เพื่อสร้าง และ กระจายเนื้อหาไปยังกลุ่มเป้าหมายให้ดียิ่งขึ้น
การทำให้เว็บไซต์เป็นที่รู้จัก หรือทำให้เว็บไซต์ประสบความสำเร็จ อาจต้องใช้กำลังกาย กำลังใจมาก ในช่วงแรก เหมือนกับเครื่องบินที่กำลัง Take Off แต่พอเว็บไซต์เป็นที่รู้จักแล้ว ก็จะใช้กำลังน้อยลง เหมือนกับเครื่องบินที่บินขึ้นลมบนแล้วนั่นเอง ดังนั้น เว็บไซต์ที่ไม่ประสบความสำเร็จส่วนหนึ่งเกิดจากการขาดความต่อเนื่อง หรือ ถอดใจก่อนที่จะ Take Off ไปถึงลมบน แต่เชื่อไหมว่า เมื่อทำให้เว็บไซต์แรกติดลมบนได้ เว็บไซต์ที่ 2 , 3 หรือ 4 จะทำได้ง่ายกว่าเว็บแรกหลายเท่า เรียกได้ว่าทำเว็บอะไรก็สำเร็จเลยก็ว่าได้... ผมมีประสบการณ์มาแล้ว ไม่อยากบอก แต่อยากให้ลองดูด้วยตัวเอง
โดย สุพจน์ทรงเผ่า
Power Web Application Co., Ltd.