อวสานปั๊มเอสโซ่ในประเทศไทย

ปั๊มเอสโซ่ในประเทศไทย เริ่มต้นขึ้นในปี พ.ศ. 2437 ภายใต้ชื่อ "บริษัท แสตนดาร์ดออยล์แห่งนิวยอร์ก" ก่อตั้งโดย นายโรเบิร์ต เบอร์นาร์ด ดัลล์ (Robert Bernard Dunn) ชาวอเมริกัน ที่ได้เข้ามาเปิดสาขาในประเทศไทยที่ตรอกกัปตันบุช ถนนเจริญกรุง กรุงเทพมหานคร จำหน่ายน้ำมันก๊าดตราไก่และตรานกอินทรี

ต่อมาในปี พ.ศ. 2450 บริษัท แสตนดาร์ดออยล์แห่งนิวยอร์ก ได้ควบรวมกิจการกับบริษัทอื่นๆ ในอุตสาหกรรมน้ำมัน จนกลายเป็นบริษัท เอ็กซอน คอร์ปอเรชั่น (Exxon Corporation) ในปี พ.ศ. 2493 และเปลี่ยนชื่อเป็น เอ็กซอนโมบิล (ExxonMobil) ในปี พ.ศ. 2533

ในปี พ.ศ. 2508 บริษัท เอ็กซอนโมบิล ได้จดทะเบียนจัดตั้งบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในประเทศไทย เพื่อดำเนินธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันและสถานีบริการน้ำมันในประเทศไทย

โรงกลั่นน้ำมันแห่งแรกของเอสโซ่ในประเทศไทย ตั้งอยู่ที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เริ่มดำเนินการผลิตในปี พ.ศ. 2514 โดยปัจจุบันมีกำลังการผลิตน้ำมันดิบวันละ 174,000 บาร์เรล

ปัจจุบัน เอสโซ่มีเครือข่ายสถานีบริการน้ำมันทั่วประเทศไทยกว่า 1,000 แห่ง ให้บริการน้ำมันเชื้อเพลิง น้ำมันหล่อลื่น น้ำมันเครื่อง และสินค้าอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

และตั้งแต่ 1 กันยายน 2566 เป็นต้นไป ปั๊มเอสโซ่ในประเทศไทยจะเริ่มมีการเปลี่ยนเป้ายใหม่เป็นปั๊มบางจาก เนื่องจากบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้เข้าซื้อกิจการบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) จากบริษัท เอ็กซอนโมบิล สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2566 โดยมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 55,500 ล้านบาท

การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ ทำให้บางจากกลายเป็นบริษัทน้ำมันที่มีโรงกลั่นน้ำมันและสถานีบริการน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยมีกำลังการกลั่นน้ำมันรวม 294,000 บาร์เรลต่อวัน และเครือข่ายสถานีบริการน้ำมันกว่า 2,100 แห่ง

การเปลี่ยนป้ายปั๊มเอสโซ่เป็นปั๊มบางจากนั้น คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 ปี โดยปั๊มเอสโซ่แห่งสุดท้ายจะเปลี่ยนเป็นปั๊มบางจากในปี พ.ศ. 2568